เมื่อ : 29 พ.ค. 2567
เจาะลึกฟังก์ชันแบตเตอรี่ใน Infinix NOTE 40 Series  เพิ่มประสบการณ์สมาร์ทโฟนคู่ใจด้วยสเต็ปชาร์จไวที่เหนือกว่า ให้พร้อมรับมือทุกสถานการณ์

กรุงเทพ 28 พฤษภาคม 2567 – ด้วยไลฟ์สไตล์ของผู้คนในปัจจุบัน ที่ต้องมีการติดต่อสื่อสารรวมถึงรับข้อมูลข่าวสารผ่านโทรศัพท์มือถือกันมากขึ้น สมาร์ทโฟนจึงกลายเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่ช่วยอำนวยความสะดวก และเข้ามามีบทบาททำให้ชีวิตประจำวันมีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น ซึ่งนอกจากฟังก์ชั่นการทำงานต้องตอบโจทย์แล้ว เรื่องของแบตเตอรี่ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามเพื่อให้ทุกการติดต่อสื่อสารเป็นไปอย่างไม่มีสะดุด ล่าสุด อินฟินิกซ์ (Infinix) แบรนด์สมาร์ทโฟนระดับโลกที่ตอบโจทย์ความคุ้มค่า ครบครันทุกการใช้งาน และเข้าถึงทุกไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ตอกย้ำความเป็นผู้นำในด้านนวัตกรรมที่ออกแบบและสร้างสรรค์มาเพื่อผู้ใช้งานอย่างแท้จริง ได้เปิดตัว NOTE 40 Series สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุด ที่มาพร้อมเทคโนโลยีการชาร์จสุดล้ำ มาพร้อมไฮไลท์ชิปเซ็ตตัวแรกที่พัฒนาขึ้นโดยอินฟินิกซ์อย่าง Cheetah X1 อย่าง All-Round FastCharge 2.0 ที่รองรับการชาร์จเร็วได้ถึง 100W พร้อมกับโหมดการชาร์จที่หลากหลาย รองรับทุกสถานการณ์และไลฟ์สไตล์ ซึ่งจะจัดเต็มขนาดไหนจะพาทุกคนไปเจาะลึกข้อมูลกัน

 

สุดยอดโหมดการชาร์จที่เลือกได้ 3 ระดับ เพิ่มแบตได้กว่า 50% ในระยะเวลาเร็วสุดเพียง 8 นาที

·      Hyper Mode สุดยอดโหมดการชาร์จที่ต้องการความรวดเร็ว ด้วยโหมดนี้จะช่วยให้แบตเตอร์รี่เพิ่มขึ้นกว่า 50% ชาร์จแค่เพียง 8 นาที ก็สามารถให้สมาร์ทโฟนกลับมาใช้งานได้ต่อเนื่องไม่สะดุด

·      Smart Mode โหมดการชาร์จสุดอัจฉริยะที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน ผสานสมดุลความเร็วและยังคงรักษาอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ไว้ได้ ด้วยการชาร์จ 50% ภายใน 12 นาที

·      Low-Temp Mode อยู่เมืองร้อน แต่เครื่องห้ามร้อน ด้วยโหมดนี้จะช่วยให้อุณภูมิสมาร์ทโฟนลดลง 10 องศาในขณะชาร์จและรักษาสุขภาพแบตเตอรี่ให้สามารถใช้งานได้ยาวนานยิ่งขึ้น

 

เปลี่ยนทุกความกังวล ให้ง่ายเพียงปลายนิ้ว

·      MagKit อุปกรณ์การชาร์จแบบไร้สายที่รองรับการชาร์จได้สูงสุด 20W มอบความสะดวกสบายให้ชีวิตไร้กังวล ด้วย MagCase และแผ่นชาร์จแบบแม่เหล็ก MagPad ที่มีมาใน Infinix NOTE 40 Series ทุกรุ่น ให้คุณสัมผัสกับประสบการณ์ ecosystem จากอินฟินิกซ์แบบไร้รอยต่อ  

·        Reverse Charging หรือระบบการชาร์จแบบย้อนกลับ ที่ช่วยให้สามารถแชร์พลังงานกับสมาร์ทโฟนเครื่องอื่น ๆ ทั้งแบบมีสายและไร้สาย ด้วยความเร็วสูงสุด 10W

·        Bypass Charging 2.0 เอาใจสายเอนเตอร์เทนด้วยระบบที่ช่วยกรองกระแสไฟและจ่ายไฟโดยตรงไปยังเมนบอร์ดทำให้ระหว่างการเล่นเกมหรือดูวิดีโอฟังก์ชันนี้จะช่วยลดอุณภูมิของเครื่องลดได้ 4.5 องศา เพื่อป้องกันความร้อนของเครื่องไม่ให้สูงเกินไป

·    AI Charge ฟังก์ชันนี้จะปรับเปลี่ยนตามรูปแบบการใช้งานสมาร์ทโฟนของแต่ละคน โดยป้องกันการชาร์จขณะที่ไม่ได้ใช้งาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงของการนอนหลับ ด้วยเทคโนโลยี AI Charge จะเป็นอีกหนึ่งฟังกชันที่จะช่วยรักษาอายุแบตเตอรี่ให้ยาวนานยิ่งขึ้น

·      Extreme-Temp Tech แม้จะต้องพบเจอกับสภาวะสุดขั้วอย่างอุณหภูมิ -20 องศา แต่ก็มั่นใจได้ว่าจะสามารถชาร์จได้อย่างเต็มประสิทธิภาพแน่นอน

 

แชท ชม แชร์ ไม่ต้องชาร์จเผื่อ แบตครึ่งเดียวก็แสตนบายได้ ไม่สะดุด

 

สมาร์ทโฟนในซีรีส์นี้นอกจากจะมาพร้อมความเร็วและแรงแบบสุดๆแล้ว แบตเตอรี่ยังมีความทนทานในการใช้งานต่อเนื่อง เพราะชาร์จเพียงแค่ 50% ก็สามารถโทรศัพท์ได้นาน 9.1 ชั่วโมง หรือคอหนังคอซีรีส์ก็ดูกันได้ยาว ๆ 6.8 ชั่วโมง แม้แต่สายเกมมิ่งก็อยู่ในตี้ได้ต่อเนื่อง 3.1 ชั่วโมง  และอายุการใช้งานยาวนานสูงกว่า 1600 รอบ และยังคงไว้ซึ่งประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ที่ 80%

 

ดังนั้นผู้ใช้งานจึงไม่ต้องคอยกังวลแม้ต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่อาจทำให้การใช้งานสมาร์ทโฟนต้องสะดุดเพราะไม่ว่าแบตจะหมดระหว่างช่วงเวลาสำคัญ ลืมชาร์จโทรศัพท์ตอนกลางคืน หรือมีเวลาชาร์จแบตไม่ถึง 10 นาที ด้วยประสิทธิภาพที่ทรงพลังของ NOTE 40 Series  ที่มาพร้อมกับฟังก์ชันและเทคโนโลยีทั้งหมดนี้ จะช่วยให้ทุกการสื่อสารเป็นไปได้อย่างราบรื่นและต่อเนื่องตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์อย่างแน่นอน สำหรับ Infinix NOTE 40 Series มีมาให้เลือกด้วยกันสองรุ่น ได้แก่ รุ่น NOTE 40Pro 5G ราคา 11999 บาท มาพร้อมกับสองสีสัน Obsidian Black (ดำ) และ Vintage Green (เขียว) และ รุ่น NOTE 40Pro ราคาเพียง 8999 บาท ในสี Titan Gold (ทอง) และ Vintage Green (เขียว) โดยมีจำหน่ายทั้งช่องทางออนไลน์และร้านค้าชั้นนำ

 

 

สามารถติดตามข่าวสารและโปรโมชั่นดี ๆ เพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/InfinixMobileThailand/

 

                                #####

 

ข่าวอื่นๆ ที่น่าสนใจ