เมื่อ : 10 มิ.ย. 2567
’’แอปหาคู่’’ เจาะเทรนด์คนรุ่นใหม่หารักออนไลน์

ท่ามกลางสังคมปัจจุบันที่เทคโนโลยีเข้ามามีอิทธิพลต่อการดำเนินชีวิตของคนไทยอย่างมาก โดยเฉพาะในกลุ่มคนโสดที่เริ่มหันมาใช้แอปพลิเคชันเพื่อค้นหาคู่และสร้างความสัมพันธ์ แม้ว่าการใช้งานแอปพลิเคชันหาคู่ในประเทศไทยจะยังไม่แพร่หลายเท่ากับในต่างประเทศ แต่ก็มีแนวโน้มว่าคนไทยจะเปิดรับวัฒนธรรมการสร้างความสัมพันธ์ผ่านแอปพลิเคชันเหล่านี้เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งอาจเป็นผลมาจากสภาพแวดล้อมและการใช้ชีวิตที่ทำให้คนไทยในวัยเจริญพันธุ์มีอัตราการโสดสูงถึง 40.5% ตามข้อมูลจากสภาพัฒน์ฯ
 

จากกระแสดังกล่าว บริษัท ดาต้าเซ็ต จำกัด ได้รวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์จากการฟังเสียงผู้บริโภคบนสื่อสังคมออนไลน์ (Social Listening) ระหว่างวันที่ 1 - 31 พฤษภาคม 2567 ผ่านเครื่องมือ DXT360 พบว่ามีการกล่าวถึง “แอปพลิเคชันหาคู่ (Dating App)” ผ่านช่องทาง X มากที่สุด รองลงมาเป็น Facebook และ Pantip ตามลำดับ โดยได้รับเอ็นเกจเมนต์ (Engagement) หรือ การมีส่วนร่วมจากผู้คนบนโซเชียลจำนวนมากถึง 322146 ครั้ง

 

แอปหาคู่สุดฮิตครองใจคนโสด

         

หากพูดถึงแอปพลิเคชันหาคู่ หรือ Dating App ที่คนโสดทั่วโลกนิยมใช้กันนั้นมีอยู่มากมายทั่วโลก ซึ่งแต่ละแอปก็มีลักษณะและเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันไป แต่สำหรับในประเทศไทยแอปพลิเคชันที่ได้รับความนิยมโดยมีการพูดถึงบนโซเชียลมีเดีย (Mention) มากที่สุดในเดือน พ.ค. 2567 คือ Tinder (77%) รองลงมา Coffee Meets Bagel (12%) Her (8%) Bumble (2%) และ Omi (1%) ตามลำดับ


Top 5 แอปหาคู่ที่ถูก Mention มากที่สุดบนโซเชียลมีเดีย

1. Tinder (77%)

2. Coffee Meets Bagel (CMB)  (12%)

3. Her (8%)

4. Bumble (2%)

5. Omi (1%)

แฟนต่างชาติ มีการใช้งานกันเยอะมากในต่างประเทศ โดยเอกลักษณ์ของแอปนี้จะให้ฝ่ายหญิงเป็นการทักหาก่อน และหากแมตช์กันแล้วไม่ได้แชทกันภายใน 24 ชม. ระบบก็จะลบแมตช์นั้นทิ้งไป สำหรับการใช้งานของแอปนี้จะมีลักษณะคล้าย Tinder ที่มีการปัดซ้ายเมื่อไม่ถูกใจ และปัดขวาเมื่อถูกใจ นอกจากนี้แอปยังมีฟีเจอร์ หาเพื่อนรู้ใจ (Bumble BFF) และหาเครือข่ายทางสังคม (Bumble Bizz) ด้วย

 

5) Omi

แอปหนึ่งที่คนไทยคุ้นหน้าคุ้นตากัน โดยลักษณะการใช้งานแอปยังคงเช่นเดียวกับแอปอื่น ๆ ที่มีการปัดซ้าย ปัดขวา นอกจากนี้ Omi มีฟังก์ชัน “Quiz” เป็นการตั้งและตอบคำถามกัน เพื่อให้รู้จักกันได้เร็วและมากกว่าเดิม 

 

เปรียบเทียบจุดเด่น 5 แอปหาคู่ แอปไหนโดนใจสุด  

Tinder (จุดเด่น) 

- เป็นที่รู้จักกันกว้างขวาง

- มีผู้ใช้งานเป็นจำนวนมาก

- ใช้งานง่าย

- เชื่อมต่อกับ Facebook 

 

Coffee Meets Bagel (CMB)  (จุดเด่น) 

- เน้นหาคนคุยจริงจัง

- ต้องมีการสนทนากันภายใน 7 วัน หลังจากแมตช์

- ให้ความสำคัญกับโปรไฟล์ผู้ใช้งาน

- สามารถแสดงความคิดเห็นในโปรไฟล์และรูปภาพได้

 

Bumble  (จุดเด่น) 

- เน้นทำความรู้จักชาวต่างชาติ

- ต้องมีการสนทนากันภายใน 24 ชม. หลังจากแมตช์

- ผู้หญิงเป็นฝ่ายทักก่อน

- มีฟีเจอร์อื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวกับหาคู่เพียงอย่างเดียว

 

Her  (จุดเด่น) 

- เหมาะสำหรับผู้หญิงที่ชอบผู้หญิง

- เป็นอีกช่องทางให้ข่าวสารสำหรับชาว LGBTQ

 

Omi  (จุดเด่น)

- มีฟังก์ชัน Quiz ช่วยค้นหาคู่ได้ตรงใจมากขึ้น

- เชื่อมต่อกับ Instagram

 

อย่างไรก็ตาม ทุกแอปต่างมีเอกลักษณ์และจุดเด่นที่แตกต่างกันไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความต้องการและความถนัดในการใช้งานของผู้บริโภค
 

ชาวโซเชียลพูดถึง “แอปหาคู่” ในแง่มุมไหน?

 

จากการรวบรวมความคิดเห็นบนโซเชียลมีเดียเกี่ยวกับแอปพลิเคชันประเภท Dating App หรือแอปหาคู่ พบว่าผู้ใช้งานส่วนใหญ่ถึง 41% บอกเล่าประสบการณ์ของตัวเองที่ได้แฟนจากการใช้แอปพลิเคชันหาคู่รองลงมา 22% เป็นการเตือนภัยกลลวงของมิจฉาชีพที่แฝงตัวมาในรูปแบบของผู้คนที่ต้องการนัดเดต 20% เป็นการแชร์ประสบการณ์คู่รักแอบมีกิ๊กผ่านแอปหาคู่ ส่วนอีก 17% เป็นการแนะนำวิธีการเล่นแอป

 

เล่นแอปหาคู่ ปัดแล้วเจออะไรบ้าง?

เป็นที่แน่นอนว่าความสัมพันธ์ที่ชัดเจนเป็นสิ่งที่ทุกคนมองหา โดยจากการเก็บข้อมูลบนโซเชียลมีเดียพบว่า ผู้ที่ใช้บริการแอปหาคู่มีเพียง 34% เท่านั้นที่มีวัตถุประสงค์ใช้แอปในการหาแฟนหรือมีความสัมพันธ์ที่ชัดเจนแบบคนรู้ใจ นอกเหนือจากนั้นกลับกลายเป็นต้องพบเจอกับมิจฉาชีพที่แฝงตัวเข้ามาในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งผู้ชักชวนให้ลงทุนหรือชวนซื้อของออนไลน์ รวมทั้งหลายคนต้องพบเจอกับคนที่ใช้แอปเพื่อเข้ามาหาความสัมพันธ์ระยะสั้น   

 

สเปกแบบไหนที่คนโสดมองหา?

 

จากข้อมูล Insight พบว่าสัญชาติเป็นปัจจัยแรกที่คนโสดใช้ในการตัดสินใจทำความรู้จักกับผู้อื่น โดยมีถึง 20% ของคนโสดที่ให้ความสำคัญกับสัญชาติ อย่างกรณีข่าว "คุณวุ้นเส้น" ชาวเยอรมัน หรือที่หลายคนให้ฉายากันว่า "จอห์น วิค เมืองไทย" ซึ่งเขาได้พบรักกับภรรยาคนไทยผ่านแอปพลิเคชันหาคู่ นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่มีผลต่อการตัดสินใจรองลงมาคือ หน้าตา ทัศนคติ อาชีพ ฐานะ รูปร่าง การศึกษา อายุ และไลฟ์สไตล์

 

เปิดเหตุผลคนเลิกใช้แอปหาคู่

จากการรวบรวมข้อมูลบนโซเชียลมีเดียพบว่า ผู้ใช้แอป 31% ตัดสินใจยกเลิกใช้แอปหาคู่เนื่องจากผิดหวังในความสัมพันธ์ รวมถึงประสบการณ์ที่ทำให้รู้สึกเสียเวลาและไม่ปลอดภัย สอดคล้องกับผลสำรวจ Forbes Health ที่ระบุว่าปัจจุบันมีผู้คนกว่า 78% รู้สึกเหนื่อยล้ากับการใช้แอปหาคู่ เนื่องจากไม่ประสบความสำเร็จในความรัก 

อย่างไรก็ตาม คนรุ่นใหม่นอกจากจะนิยมใช้แอปพลิเคชันหาคู่เพื่อสร้างความสัมพันธ์แล้วยังมีแพลตฟอร์มออนไลน์อื่น ๆ ที่เป็นทางเลือก อย่างเช่น Facebook และ Pantip ซึ่งการสร้างความสัมพันธ์บนโลกออนไลน์มีข้อดีในการเปิดโอกาสให้เราได้เจอผู้คนใหม่ ๆ ทั่วโลก แต่ควรตระหนักรู้ว่า ความสำเร็จในการสร้างความสัมพันธ์ต้องอาศัยความจริงใจ ซื่อสัตย์ ความอดทน และให้เวลาในการทำความรู้จักกันจริง ๆ เพื่อความสัมพันธ์ที่มั่นคงและยั่งยืน นอกจากนี้ ควรระมัดระวังเรื่องความปลอดภัยและไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนตัวมากเกินไปในช่วงแรกที่เพิ่งรู้จักกัน

 

ข้อมูลทั้งหมดที่นำมาวิเคราะห์หา Insight รวบรวมผ่าน DXT360 แพลตฟอร์มติดตามข่าวสารและเสียงของผู้บริโภค (Social Listening) ของบริษัท ดาต้าเซ็ต จำกัด (dataxet:infoquest) โดยเก็บข้อมูลระหว่าง 1 - 31 พ.ค. 2567

 

                                #####