เมื่อ : 05 ธ.ค. 2567
จีเอเบิล เผยความพร้อมด้านไอทีโซลูชัน Cloud และ Cybersecurity ขั้นสูง เตรียมรับการย้ายฐาน Data Center เทคโนโลยีขับเคลื่อนอนาคตเศรษฐกิจและภาคธุรกิจองค์กรไทย

จากกระแสการลงทุน Data Center ในประเทศไทยที่ยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง การตัดสินใจลงทุน Data Center ขนาดใหญ่ของบริษัทระดับโลก ถือเป็นการตอกย้ำศักยภาพของประเทศไทยว่าเป็นประเทศที่มีความแข็งแกร่งด้านโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลและมีความพร้อมรองรับการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุคดิจิทัล ทั้งภาคธุรกิจและองค์กรภาครัฐที่โดดเด่นมากที่สุดในอาเซียน

 

นายอุกฤษฏ์ วงศราวิทย์ ประธานบริหารสายงานปฏิบัติการ และ ประธานบริหารสายงานโซลูชันและเทคโนโลยี บริษัท จีเอเบิล จำกัด (มหาชน) ได้เผยถึงข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับการย้ายฐาน Data Center มายังประเทศไทย ไว้ว่า “การเข้ามาของ Data Center ที่จะมาพร้อมกับแอปพลิเคชัน และการใช้งาน Data Analytics ในการย้ายข้อมูลจาก on premise สู่ on cloud จะส่งผลให้มีโอนถ่ายข้อมูลไปไว้บนคลาวด์กันมากขึ้นในวงกว้าง หมายรวมถึงภาคธุรกิจองค์กรไทยทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ด้วยคุณสมบัติของคลาวด์ที่มีความยืดหยุ่น ปลอดภัย สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามการใช้งาน และควบคุมต้นทุนได้ตามการใช้งาน ซึ่งสอดคล้องกับทิศทางข้อมูลของ Gartner ที่เผยให้เห็นสัดส่วนการใช้จ่าย Platform-as-a-Service (PaaS) บริการแพลตฟอร์มบนคลาวด์ ต่อ Infrastructure as a Service (IaaS) บริการโครงสร้างพื้นฐานระบบไอทีสำหรับองค์กร ของประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกในช่วงปี 2021-2026 ว่าประเทศไทยมีแนวโน้มการใช้จ่ายในส่วนนี้สูงถึง 592 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถือเป็นสัดส่วนที่สูงที่สุดในอาเซียน ประกอบกับปัจจัยการย้ายฐาน Data Center มาที่ประเทศไทย ทำให้ต้องมีการย้าย Workload ทั้งในส่วนของ PaaS และ IaaS ภายในประเทศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

ซึ่งในมุมของ จีเอเบิล ในฐานะบริษัท Tech Enabler สัญชาติไทย ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของพันธมิตรในหลายภาคธุรกิจองค์กรขนาดใหญ่ของประเทศไทยมาตลอด 35 ปี ด้วยบริการที่ครบวงจรแบบ One Stop Service จีเอเบิล เชื่อมั่นในความพร้อมของทีมงาน IT Developer ที่มี Technical Skill ในระดับสูงกว่า 1000 คน มีความเชี่ยวชาญด้านโครงสร้างพื้นฐานไอทีระดับองค์กรขนาดใหญ่ ระบบคลาวด์ ระบบ Data Analytics เพื่อให้ข้อมูลพร้อมใช้งานได้จริง รวมถึงระบบการป้องกันความปลอดภัยของข้อมูล Cybersecurity ขั้นสูง ฯลฯ ในการรองรับ Workload ที่จะมาพร้อมกับการย้ายฐาน Data Center ด้วยมาตรฐานการให้บริการระดับสากล ซึ่งจีเอเบิลสามารถส่งมอบโซลูชันได้หลากหลาย อาทิ Customizable Cloud Solutions ที่เหมาะสมกับธุรกิจ Data Security and Compliance การสร้างระบบความปลอดภัยให้เป็นไปตามมาตรฐาน Scalability & Cost Efficiency ความสามารถในการรองรับการขยายตัวของธุรกิจและการบริหารจัดการต้นทุนที่เหมาะสม รวมถึง Integrated Cloud Ecosystem การสร้างระบบที่สนับสนุนการทำงานร่วมกันของเทคโนโลยีต่างๆ ฯลฯ

 

อีกทั้งจีเอเบิลยังได้วาง Business Model ที่มุ่งใส่ใจถึงประโยชน์ของผู้ใช้งานในเรื่องการลดต้นทุนเป็นหลัก เพื่อตอบสนองความยั่งยืนเรื่องรายได้ทางธุรกิจของพันธมิตร (Sustainable Growth) โดยโฟกัส 4 เรื่อง ดังนี้ 1. Automation การทำระบบที่สามารถทำซ้ำได้โดยลดความผิดพลาดของคน 2. Resilience การวางระบบที่สามารถใช้งานได้ในระยะยาวและมีความปลอดภัย 3. Flexible มีความยืดหยุ่นในการใช้งาน สามารถปรับเพิ่ม / ลดทรัพยากรตามการใช้งานได้ 4. Cost Optimization สามารถควบคุมและจัดการค่าใช้จ่ายได้อย่างเหมาะสม ซึ่งถือเป็นจุดที่แตกต่างจากผู้ให้บริการจากต่างประเทศ และเป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญในการให้บริการของจีเอเบิล”

 

“เพราะในยุคที่เทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนอนาคตเศรษฐกิจและภาคธุรกิจองค์กรไทย จีเอเบิลในฐานะผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของธุรกิจองค์กรมากมายของประเทศ ยังคงมุ่งมั่นเดินหน้าพัฒนาด้านเทคโนโลยีอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อเพิ่มโอกาสที่ไร้ขีดจำกัดและปลดล็อกข้อจำกัดทางเทคโนโลยี เคียงข้างธุรกิจองค์กรไทยสู่การเติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน” นายอุกฤษฏ์ กล่าวทิ้งท้าย

 

                                 #####

 

ข่าวอื่นๆ ที่น่าสนใจ