อยู่ดีๆหนี้14ล้าน เจ็ตสกีรับบาป! ชี้สาเหตุกีฬาไทยย่ำที่เดิม เป็นที่รู้กัน ’’ทำดีหนี้ท่วม!’’ เสนอให้แก้ไขระบบ กกท.

เจ็ตสกี WGP#1 สร้างความสำเร็จล้นหลาม สร้างรายได้ชาติทะลุ 490 ล้านบาท เติบโตขึ้นเป็นผู้นำกีฬาเจ็ตสกีโลกแทนที่สหรัฐฯ อย่างเด็ดขาดในปีนี้ ท่ามกลางการยอมรับของนักกีฬาทั่วโลก แต่ล่าสุดมีกระแสข่าวว่า ต้องรับหนี้ก้อนโตกว่า 14 ล้านบาท จากการทำแผนงานข้ามปี แต่ผู้ว่าการ การกีฬาแห่งประเทศไทย มาแจ้งตัดงบก่อนงานปีที่แล้วแค่ 21 วัน ส่งผลให้ถูกทวงหนี้หนัก ส่วนการกีฬาฯ เงียบกริบ เดรค-ปริเขต ผู้อำนวยการทัวร์นาเม้นท์ยอมรับเป็นเรื่องจริง และรู้สึกว่าการกีฬาแห่งประเทศไทย ไม่ได้จริงจังกับเป้าหมายระดับโลกตามที่พูด ขอร้อง รมว.สรวงศ์ เทียนทอง เปลี่ยนแปลงระบบ กกท.“ให้พ้นยุคกีฬาไทยชอบซื้อ ไม่ชอบสร้าง” จนเพื่อนบ้านจะแซงหน้าไทยหมดแล้ว

นายปริเขต สืบสหการ ผู้อำนวยการทัวร์นาเม้นท์เจ็ตสกีโลก WGP#1 เปิดเผยว่า “ทัวร์นาเม้นท์ WGP#1 เวิลด์คัพ 2024 ที่จัดขึ้น ณ เมืองพัทยา จบลงอย่างสมบูรณ์ ในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา และบรรลุเป้าหมายสำคัญ โดยนักกีฬานานาชาติและนักกีฬาชั้นนำทั่วโลก ได้ให้ความเชื่อถือและยอมรับว่า ขณะนี้ ทัวร์นาเม้นท์กีฬาเจ็ตสกี ที่มีคุณภาพอันดับที่ 1 ของโลก ได้เปลี่ยนจากที่เมืองเลคฮาวาซู สหรัฐอเมริกา มาเป็น ที่ประเทศไทยอย่างเป็นทางการแล้ว
ด้านแผนงานการต่อยอดจากศูนย์กลางกีฬาโลก ริเริ่มเป็นศูนย์กลางเวทีการค้ากีฬาเจ็ตสกีโลก ก็ประสบความสำเร็จอย่างดี มียอดสนับสนุนการขายแก่บริษัทต่างๆ กว่า 38 ล้านบาท รวมถึง มร.อิโรชิ อีโตะ ประธาน บริษัท คาวาซากิมอเตอร์ จำกัด ก็เดินทางมางานนี้ด้วยตัวเอง ขณะที่ผู้ซื้อบัตรเข้าชมการแข่งขัน 2192 คน จาก 59 ชาติ แบ่งเป็นคนไทย 27% และชาวต่างชาติ 73% ส่วน
ผู้ชมนานาชาติ 10 อันดับที่เข้าชมสูงสุด ได้แก่
1.รัสเซีย
2.สหรัฐอเมริกา
3.อังกฤษ
4.เยอรมัน
5.แคนนาดา
6.ฟินแลนด์
7.ออสเตรียม
8.เดนมาร์ค
9.สวีเดน และ
10.สวิสเซอร์แลนด์
นายปริเขต กล่าวต่อว่า “ส่วนปัญหาที่ถูกเร่งรัดหนี้สิน 14 ล้านบาท จากยูโรสปอร์ตเป็นเรื่องจริง ปัญหานี้ได้สะท้อนระบบงานของการกีฬาแห่งประเทศไทยเป็นอย่างดี เมื่อตอนแถลงข่าว ท่านผู้ว่าการ การกีฬาฯ บอกว่า มีเป้าหมายระดับโลก อยากทำให้สำเร็จ เพื่อเป็นชนิดกีฬาแรก เป็นต้นแบบของกีฬาที่ไม่ได้มีต้นกำเนิดในเมืองไทย และคนไทย สามารถเป็นผู้นำโลก เป็นซอฟต์พาเวอร์ ทาง WGP#1 ก็ต้องทำงานล่วงหน้าเป็นปี สุดท้าย ท่านผู้ว่าฯ มาแจ้งก่อนงานปีที่แล้วแค่ 21 วัน ว่า งบประชาสัมพันธ์ทั้งหมดถูกตัด และก็ไม่มีคำตอบใดๆ ในการช่วยแก้ปัญหาอีกเลย
ก่อนหน้านี้มีโอกาสเข้าหารือกับ นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาท่านใหม่ ทราบว่าท่านจะแก้ไขระบบงานการกีฬาให้มีศักยภาพขึ้นหลายจุด นับเป็นประโยชน์ต่อวงการกีฬาไทยมาก ส่วนตัวมองว่า การกีฬาฯ เป็นหลัก ของงานกีฬาชาติ ถ้ายังไม่เปลี่ยนแนวคิดแบบ “ชอบซื้อ ไม่ชอบสร้าง” “ชอบงานใหญ่ ด้อยค่ากีฬาเล็ก” และหันมาวิเคราะห์โครงการที่มีประโยชน์ชาติจริงจัง มีตัวชี้วัดแต่ไม่ได้ใช้ ต่อไปใครก็ไม่อยากทำเพื่อชาติอีก แบบที่ภายในองค์กร กกท. ก็รู้กันและพูดว่า “ทำดี หนี้ท่วม” ต่อให้ทำงานแย่ๆก็มีค่าเท่ากัน ถ้าเป็นแบบนี้เชื่อว่าต่อไปเพื่อนบ้านคงแซงวงการกีฬาไทยแน่นอน โดยเฉพาะไม่มีแผนส่งเสริมกีฬาด้านทรัพย์สินทางปัญญาจริงจังเลย”
#####