ปิดฉากประทับใจ! GT World Challenge Asia 2025 สนามประเทศไทย ชูเสน่ห์อีสานใต้ “กันตรึมซิ่ง” สู่ซีรีส์ดวลความเร็วสุดลักชัวรีของโลก


ผ่านไปแล้วกับสุดสัปดาห์แห่งมอเตอร์สปอร์ตที่สุดประทับใจกับศึกซูเปอร์คาร์ชั้นพรีเมียม ที่กลับมาดวลความเร็ว-แรง-ดุดัน เติมเต็มประสบการณ์ให้กับแฟนชาวไทยถึงบ้าน โดยการแข่งขันฤดูกาลนี้เปิดฉากที่ประเทศมาเลเซีย ต่อด้วยสนามที่ 2 ที่อินโดนีเซีย ประเทศไทยรับไม้ต่อเป็นสนามที่ 3 ระหว่างวันที่ 30 พ.ค.-1 มิ.ย. ก่อนจะไปแข่งขันสนามที่ 4-5 ที่ญี่ปุ่น และปิดฉาก ฉลองแชมป์กันในช่วงเดือนตุลาคมที่ประเทศจีน
นายโชติชนก ชิดชอบ ผู้อำนวยการฝ่ายกิจกรรมต่างประเทศ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต กล่าวว่า เสน่ห์ของการแข่งขัน “จีที เวิลด์ ชาลเลนจ์ เอเชีย” คือการหลอมรวมกันของเทคโนโลยียนตกรรมที่ล้ำสมัยของรถซูเปอร์คาร์ ที่เร็ว แรง ดุดัน เร้าใจและสง่างาม ผสานเข้ากับทักษะการขับขี่ขั้นสูง ทำให้ที่ผ่านมามีแฟนความเร็วติดตามชมและนิยมมากที่สุดในเอเชีย มียอดการเข้าถึงผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์มากกว่า 140 ล้านครั้ง และยอดชมผ่านไลฟ์ตรีมมิ่งมากกว่า 47 ล้านวิว”
ในช่วง Grid Walk ได้มีการนำเสน่ห์อีสานใต้ “เพลงกันตรึม” ศิลปะพื้นบ้านโบราณ นำเสนอในรูปแบบการแสดง “กันตรึมซิ่ง” เป็นขบวนกลองยาวประยุกต์ ผสานกับซอกันตรึม อีสานใต้ ให้ความบันเทิง โดยมีหมู่มวลนางรำ สวมใส่ชุดอีสาน ร่ายรำ ออกลีลาลวดลายอย่างสนุกสนาน เน้นความครื้นเครง มีอัตลักษณ์และภาพจำที่ไม่เหมือนใคร
เมื่อภาพชุดการแสดง “กันตรึมซิ่ง” ถูกถ่ายทอดสู่แฟนความเร็วทั่วทุกมุมโลก ที่ต่างรอติดตามชมซีรีส์ดวลความเร็วสุดลักชัวรีนี้ ก็ได้รับเสียงชื่นชมมากมาย ทั้งการจัดการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่และสมบูรณ์พร้อม รวมทั้งโอกาสสำคัญที่ได้ชื่นชมศิลปวัฒนธรรมเก่าแก่ภาคอีสาน ที่ปัจจุบันยังถือว่าหาชมได้ยาก โดยฝ่ายจัดการแข่งขันมุ่งหวังในการเชิดชูเพลงพื้นบ้านอีสานใต้ เหล่านี้ให้คงคุณค่า ความภาคภูมิใจ และไม่เลือนหายไปตามกาลเวลา”
เหล่านี้เองคือการแสดงศักยภาพของประเทศไทย ในฐานะศูนย์กลางของมอเตอร์สปอร์ตเอเชีย ที่เป็นเป้าหมายสำคัญของชาติ ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ จุดประกายความฝัน สร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชน ผลักดันสู่กีฬาอาชีพระดับโลก กระตุ้นเศรษฐกิจ-การท่องเที่ยวผ่านกีฬาระดับพรีเมียม ทั้งยังสนับสนุนการเติบโตให้กับอุตสาหกรรม มอเตอร์สปอร์ตและยานยนต์ให้เติบโตอย่างยั่งยืนอีกด้วย
#####