“ส่องแนวคิด “เพิ่มยอดเดลิเวอรี” ด้วยเครื่องมือการตลาด ผ่านมุมมองเชฟผู้มากประสบการณ์ และบาริสต้าน้องใหม่ในวงการ”

ปัจจุบันธุรกิจร้านอาหารและคาเฟ่เริ่มฟื้นตัวและกลับมาคึกคักอีกครั้งหลังการคลี่คลายของสถานการณ์โควิด-19 ต้องยอมรับว่าการทำธุรกิจอาหารไม่ใช่เรื่องง่าย มีบททดสอบให้ผู้ประกอบการต้องเรียนรู้และฝ่าฟันไม่น้อย แถมยังเป็นธุรกิจที่มีผู้เล่นรายใหม่ๆ แวะเวียนเข้ามาลองสนามกันอย่างต่อเนื่อง สำหรับเจ้าของธุรกิจร้านอาหารในยุคนี้ นอกจากจะต้องมีฝีมือในด้านรสชาติแล้ว ทักษะในการบริหารจัดการ การวางแผนธุรกิจเพื่อเข้าถึงลูกค้า ตลอดจนการทำการตลาดถือเป็นปัจจัยสำคัญไม่แพ้กันที่จะช่วยนำพาให้ธุรกิจอยู่รอดและเติบโตได้ โดยเฉพาะการทำการตลาดและขยายฐานลูกค้าผ่านแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรีที่ไม่ได้เป็นเพียงแค่ทางเลือก แต่กลายเป็นทางรอดสำคัญของการทำธุรกิจในยุคดิจิทัล
วันนี้สองนักล่าฝันเจ้าของธุรกิจอย่าง “เชฟเอ” ผู้คร่ำหวอดในวงการอาหารมากว่า 30 ปี และ “เต้” บาริสต้าสาวที่ใช้ฝีมือในการทำกาแฟซื้อใจลูกค้าจนกลายเป็นร้านดาวรุ่งน้องใหม่ จะมาร่วมแชร์มุมมองและประสบการณ์ของผู้ประกอบการที่ตัดสินใจเข้ามาอยู่บนแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรีและเพิ่มยอดขายด้วยเครื่องมือการตลาดออนไลน์

จากเชฟก้นครัว..สู่เจ้าของ 3 ร้านอาหารที่ขายผ่าน “ฟู้ดเดลิเวอรี” เท่านั้น
ถิรวุษิ สิทธิวัฒน์สุนทร หรือที่คนในวงการอาหารรู้จักดีในชื่อของ “เชฟเอ” ชายหนุ่มผู้เติบโตมาในครอบครัวที่ขายอาหารเป็นอาชีพหลักอย่าง “ร้านราดหน้าไอ้หนูยอดผัก” จึงได้หล่อหลอมให้เขารักในการทำอาหารมาตั้งแต่เด็ก และเมื่อมีโอกาสเขาจึงได้ตัดสินใจเปิดร้านอาหารของตัวเองเพื่อทำตามความฝัน ซึ่งประเดิมด้วย “ร้านราดหน้าฮ่องเต้” ตามมาด้วย “ร้านครัวกินดี” ที่มีเมนูอาหารตามสั่งกว่า 100 เมนู และ “ร้านครัวกินเส้น” ที่รวมเมนูอาหารเส้นแบบไทยฟิวชั่นไว้มากมายบนทำเลทองอย่างซอยมหาดไท
“ตอนที่ตัดสินใจออกจากงานประจำเพื่อมาเปิดร้านอาหารของตัวเอง เมนูเดียวที่ผมคิดถึงมาตลอดคือราดหน้า เพราะเป็นเมนูที่ผมคุ้นเคยมาตั้งแต่เด็กๆ และเป็นเมนูอาหารจานเดียวที่กินง่าย กินได้บ่อยและสามารถกินได้ทุกมื้อ เมื่อเลือกเมนูและทำเลได้แล้วผมก็ตัดสินใจเปิดขายผ่านฟู้ดเดลิเวอรีเท่านั้น ซึ่งแพลตฟอร์มแรกที่ผมเลือกเข้าร่วมก็คือแกร็บ เพราะเป็นแอปพลิเคชันที่ได้รับความนิยมและมีฐานลูกค้าเยอะ แถมยังมีระบบหลังบ้านที่ใช้งานง่ายและได้เงินไวภายในวันถัดไป ข้อดีของการขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์คือเราสามารถบริหารคนได้ง่ายกว่า เพราะพอไม่มีหน้าร้าน พนักงานทุกคนจึงมีหน้าที่แค่ในส่วนของการทำอาหารให้ทันกับออเดอร์ที่เข้ามา แต่ในส่วนของการทำการตลาดจะเป็นผมที่ดูแลเองหมดทั้งสามร้าน”
จากรู้แค่สูตรอาหาร..สู่การเป็นเรียนรู้ “เครื่องมือการตลาดออนไลน์”
นอกจากการคุมงานในครัวเองทุกขั้นตอน เชฟเอยังควบตำแหน่งนักการตลาดของร้านที่ต้องเรียนรู้เทคนิคต่างๆ ด้วยตัวเอง เพื่อให้ร้านอยู่รอดท่ามกลางวิกฤติโควิด-19 และทำให้ลูกค้าอยากกลับมาสั่งซื้อซ้ำอีก
“ยอมรับเลยว่าตอนที่เปิดร้านราดหน้าฮ่องเต้ ผมมีความรู้ในการทำการตลาดน้อยมาก เพราะมีเวลาน้อยจึงต้องอาศัยการเรียนรู้ด้วยตัวเองเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งนอกจากการเปิดเพจ Facebook แล้ว การโปรโมทร้านผ่านแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรีก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะทำให้ลูกค้ารู้จักและเข้าถึงร้านของร้านได้มากขึ้นท่ามกลางสภาวะที่คนไม่นิยมออกจากบ้านกันในช่วงนั้น และโชคดีอีกอย่างคือการได้ทีมงามของแกร็บคอยแนะนำฟีเจอร์ที่ใช้งานง่ายอย่าง GrabAds ที่เจ้าของร้านสามารถสร้างแคมเปญการตลาดได้ด้วยตัวเอง ทั้งการซื้อพื้นที่แบนเนอร์และคีย์เวิร์ดเพื่อเพิ่มการรับรู้ การสร้างโค้ดส่วนลดเฉพาะร้านค้า ซึ่งการทำแคมเปญผ่าน GrabAds นี้ได้ช่วยกระตุ้นให้ยอดขายของร้านเพิ่มขึ้นถึง 30%”
“ในฐานะคนทำร้านอาหาร นอกจากจะต้องมีฝีมือในการทำอาหารแล้ว การมีสกิลทางการตลาดที่ทำให้ลูกค้ารู้จักร้านของเรามากขึ้นก็สำคัญไม่แพ้กัน เราต้องหาทางให้ลูกค้ามีโอกาสได้ชิมอาหารของเรา ทำให้เขาติดใจในรสชาติจนเกิดการบอกต่อ ผมมองว่านั่นคือความท้าทายและเป็นพื้นฐานของความสำเร็จที่จะช่วยสร้างฐานลูกค้าที่เหนียวแน่นให้กับร้านในระยะยาวได้” เชฟเอกล่าวทิ้งท้ายด้วยสีหน้าของความมุ่งมั่น