เมื่อ : 18 เม.ย. 2566
สมาคมอาชีวะฯ ชี้แนวรัฐบาลใหม่ ปฎิรูปอาชีวะ ต้องเอาจริง ทำทันที

18 เมษายน 2566
นายทวีศักดิ์ คิ้วทอง นายกสมาคมผู้บริหารสถานศึกษาอาชีวศึกษาแห่งประเทศไทย (สบอท.) ได้กล่าวให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว กรณีนโยบายการศึกษาด้านอาชีวศึกษาของพรรคการเมืองในช่วงการหาเสียงเลือกตั้งที่กำลังร้อนแรงว่าในมุมมองของคนในวงการอาชีวะคนหนึ่งซึ่งตนได้ติดตามดูนโยบายของพรรคต่างๆในขณะนี้เห็นว่าพรรคการเมืองหลายพรรคได้ให้ความสำคัญกับนโยบายการศึกษาซึ่งอาจเป็นเพราะพรรคการเมืองนั้นได้เห็นความสำคัญการพัฒนาคน ประกอบกับรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันได้ให้ความสำคัญและเขียนเรื่องการปฏิรูปประเทศด้านการศึกษาไว้ใน มาตรา 54 และมาตรา 258 อย่างชัดเจนพรรคการเมืองไหนได้มาเป็นรัฐบาลก็ต้องมีการปฏิรูปการศึกษาเหมือนรัฐบาลที่ผ่านมา ตั้งแต่เรื่องของการออกกฎหมายการศึกษาแห่งชาติและกฎหมายอื่นๆที่เกี่ยวข้องอีกหลายฉบับเพื่อให้การปฏิรูปการศึกษาสำเร็จ ตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ แต่ที่ผ่านมาตนมองว่ารัฐบาลทำเรื่องปฏิรูปการศึกษาไปได้ระดับหนึ่งแต่ยังไม่ปรากฎผลงานเป็นรูปธรรมชัดเจนเนื่องจากมีข้อจำกัดหลายปัจจัย

และช่วงที่ผ่านมาดูเหมือนว่าจะเน้นให้ความสำคัญการศึกษาขั้นพื้นฐานมากกว่าการศึกษาสายอาชีพหรืออาชีวศึกษา หลังจากนี้คิดว่ากระทรวงศึกษาธิการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคงต้องมาเดินหน้าทำกันต่อไป ในช่วงที่ผ่านมาก็ขอบคุณทุกรัฐบาลที่มีนโยบายส่งเสริมสร้างความเข้มแข็งให้อาชีวศึกษาในการผลิตและพัฒนากำลังคนในทุกด้าน แต่หลังจากนี้อยากให้รัฐบาลใหม่ให้ความสำคัญกับการเรียนการสอนด้านอาชีวศึกษาผลิตกำลังคนให้มีคุณภาพตรงกับความต้องการของสถานประกอบการ และอาชีพในตลาดแรงงานทั้งในปัจจุบันและอนาคต ตนมองว่าถึงเวลาแล้วที่รัฐบาลชุดใหม่จะต้องให้ความสำคัญ จริงใจ เอาจริงและตั้งใจจริง ทำให้เร็ว และต้องรีบเดินหน้าปฏิรูปการอาชีวศึกษาทันที เพราะการศึกษาด้านอาชีวศึกษาเป็นเครื่องมือในผลิตและพัฒนากำลังคนในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศทุกด้านให้มั่นคงเป็นรากฐานชีวิตของทุกคนอย่างแท้จริง และทุกครั้งที่มีการเลือกตั้งก็ปฏิเสธไม่ได้ว่านโยบายด้านการศึกษาเป็นปัจจัยสำคัญของประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในการตัดสินใจว่าจะเลือกพรรคการเมืองไหน ศึกเลือกตั้งปี 2566 ​ในครั้งนี้เป็นการเลือกตั้งทั่วไปของประเทศไทย ครั้งที่ 27 ที่กำหนดจัดขึ้นในวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 นี้ก็เช่นเดียวกัน ทั้งคนในแวดวงการศึกษา นักเรียนนักศึกษา และประชาชนต่างให้ความสนใจติดตามนโยบายด้านอาชีวศึกษาไม่น้อย

นายทวีศักดิ์ นายกสมาคมผู้บริหารสถานศึกษาอาชีวศึกษาแห่งประเทศไทย (สบอท.) ยังได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวเพิ่มเติมถึงการที่สมาคมฯได้มีส่วนร่วมในการผลักดันและให้การสนับสนุนการอาชีวศึกษาในช่วงที่ผ่านมาว่าได้เดินหน้าอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด และจะเดินหน้าต่อไป การเลือกตั้งในครั้งนี้ทางสมาคมฯ คาดหวังกับรัฐบาลชุดใหม่มาก อยากเห็นรัฐบาลใหม่ให้ความสำคัญด้านอาชีวศึกษา โดยเฉพาะเรื่องสำคัญๆ เช่น การเปิดโอกาสให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมการกระจายอำนาจจากส่วนกลางไปให้หน่วยปฏิบัติในพื้นที่ทั้งสถาบันการอาชีวศึกษา 23 แห่งและสถานศึกษาอาชีวะรัฐและเอกชน 900 กว่าแห่ง ที่เป็นหน่วยผลิตพัฒนากำลังคนด้านวิชาชีพให้ออกมาประกอบอาชีพอิสระหรือเข้าสู่สถานประกอบการตามทักษะสาขาวิชาได้ สร้างคนให้มีอาชีพมีงานทำเลี้ยงชีพได้อย่างมีคุณภาพ 

สมาคมฯจึงมีความหวังกับว่ารัฐบาลใหม่มากอยากให้ส่งคนที่มีคุณภาพสูงมาเป็นรัฐมนตรีบริหารกระทรวงนี้ เป็นคนที่มีความคิดใหม่ๆทันสมัย กล้าคิดกล้าทำในสิ่งที่ดีงาม รับฟังเสียงผู้มีส่วนได้เสีย ทำงานต่อเนื่องไม่เปลี่ยนตัวรัฐมนตรีบ่อยเหมือนที่ผ่านมา ฝีมือถึง ใจถึง มีความรู้ความสามารถ มีประสบการณ์  ยึดหลักธรรมาภิบาล ให้ความสำคัญกับการอาชีวศึกษาเป็นพิเศษ เร่งแก้ปัญหาอาชีวะหลายเรื่องที่เป็นอยู่ในขณะนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงบประมาณที่เรามองเป็นปัญหาใหญ่มากส่งผลกระทบการบริหารงานของสถานศึกษา บางสถานศึกษาต้องจัดกิจกรรมหารายได้กันเองค่าใช้จ่ายที่รัฐบาลจัดสรรให้ในทุกวันนี้ไม่เพียงพอต่อค่าสาธารณูปโภค ค่าจ้างครู ค่าสอนเกินภาระงาน การพัฒนาครูบุคลากรให้ทันเทคโนโลยีใหม่ๆ การพัฒนาบุคลากรทั้งสายผู้บริหาร สายผู้สอน  สายสนับสนุน การพัฒนาหลักสูตร ครุภัณฑ์อุปกรณ์วัสดุการเรียนการสอน ความร่วมมือสิทธิประโยชน์สถานประกอบการ ปัญหาครูจ้างสอน บุคลากรเจ้าหน้าที่สายสนับสนุนที่ยังไม่ได้รับการบรรจุ ด้านกฏหมาย ระเบียบ หรือประกาศ กระทรวงศึกษาธิการ ที่ล้าหลัง สวัสดิการต่างๆที่ยังบั่นทอนขวัญและกำลังใจในการทำงานของผู้บริหาร ครูและบุคลากรกระทบต่อคุณภาพของนักเรียนนักศึกษา ด้านความปลอดภัยด้านภาพลักษณ์ รวมถึงปัญหาเรื่องธรรมาภิบาล การทุจริตคอรัปชั่น ที่ต้องมีปรับเปลี่ยนแก้ไขทันที และขวัญกำลังใจต่างๆ เงินเดือนเงิน ค่าตอบแทน เงินวิทยฐานะที่ต้องเหมาะสมกับวิชาชีพชั้นสูง งบสนับสนุนพัฒนากำลังคนโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่คนอาชีวศึกษาเรียกร้องมาตลอดก็คือครูผู้สอนที่ยังไม่เพียงพอกับการจัดการศึกษาด้านอาชีวะ ตั้งแต่ระดับปวช, ปวส. ระดับปริญญาตรี ซึ่งถือว่าขาดแคลนจำนวนมาก ต้องจ้างสอนมานานส่งผลกระทบทางด้านปริมาณและคุณภาพในปัจจุบัน ขอฝากว่าถ้าพรรคไหนได้รับความไว้วางใจจากประชาชนให้มาเป็นรัฐบาลและส่งใครมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการที่ดูแลด้านอาชีวศึกษาก็ฝากช่วยดูแลสะสางแก้ปัญหาเรื่องดังกล่าวนี้ให้สำเร็จโดยเร็ว อย่าให้เป็นอำนาจหน้าที่ความรับผิดชอบของข้าราชการประจำ หรือภาคเอกชนฝ่ายเดียว

นายทวีศักดิ์ คิ้วทอง นายกสมาคมฯ
ยังได้ตอบคำถามถึงการที่สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาได้ดำเนินการให้มีการจัดตั้งสำนักงานอาชีวศึกษาจังหวัด (สอจ.) ขึ้นมาจำนวน 77 จังหวัด เพื่อรองรับนโยบายการขับเคลื่อนการจัดการศึกษาที่เป็นรูปแบบตามบริบทของแต่ละจังหวัดเพื่อสนองต่อความต้องการของประชาชนในท้องถิ่นนั้น ตนเห็นด้วยอย่างยิ่ง แต่ขอให้เร่งออกกฎหมายกำหนดโครงสร้าง กำหนดตำแหน่ง สายงานความก้าวหน้าและออกกฎหมายรองรับเป็นสำนักงานในส่วนภูมิภาคเหมือนสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือส่วนราชการของกระทรวงอื่นที่ตั้งอยู่ในจังหวัดโดยเร็ว เพราะที่ผ่านมาอาชีวศึกษาไม่เคยมีหน่วยงานในส่วนภูมิภาค มีแต่สถานศึกษาที่กระจายไปทั่วประเทศช่วยปฎิบัติหน้าที่อยู่ทำให้การบริหารจัดการสร้างความเข้มแข็งด้านการศึกษาอาชีวศึกษาในจังหวัดนั้นๆพบกับปัญหามาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นเสนอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการคนใหม่ได้ให้ความสำคัญและให้การสนับสนุนในการแก้ไข พรบ.การศึกษาแห่งชาติ พรบ.การอาชีวศึกษา กฎหมายฉบับอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การอาชีวศึกษามีความคล่องตัวในการบริหารจัดการสนองต่อความต้องการของประชาชนและสถานประกอบการ รวมไปถึงการทำงานประกอบอาชีพอิสระทั้งในและต่างประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยทางสมาคมฯ พร้อมสนับสนุนว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา คนปัจจุบัน ได้ขับเคลื่อนนโยบายเร่งด่วน 9 Quick Win รวมถึงการแก้ไขปัญหาต่างๆเพื่อพัฒนาการอาชีวศึกษาให้ประสบความสำเร็จโดยเร็วโดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการแก้ไขกฎระเบียบและการสร้างความมั่นคงให้กับบุคลากร และที่สมาคมฯให้ความสำคัญมากก็คือการสนับสนุนการพัฒนาผู้เรียนให้ได้คุณภาพมาตรฐานได้รับการยอมรับจากสถานประกอบการ และตลาดแรงงาน ทั้งปริมาณและคุณภาพ เพื่อปลดล็อคปัญหาอาชีวะที่สะสมมานาน ให้อาชีวะประเทศไทยก้าวหน้าทันสมัยเหมือนกับในหลายประเทศดังเช่น เยอรมัน จีน สิงคโปร์ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ เป็นต้น และขอฝากพรรคการเมืองต่างๆ ที่อาสาเข้ามาบริหารประเทศทำการบ้านเกี่ยวกับนโยบายการศึกษา โดยเฉพาะด้านอาชีวศึกษา และรับฟังปัญหาการศึกษาจากผู้มีส่วนได้เสียรอบด้าน 
รวมถึงข้อมูลรายงานของกรรมาธิการในสภา ทั้งของสภาผู้แทนราษฎรและกรรมาธิการการศึกษาวุฒิสภา ที่ได้สะท้อนปัญหาการจัดการศึกษาด้านอาชีวศึกษาไว้แล้ว โดยในช่วงนี้ทางสมาคมฯ จะติดตามดูนโยบายด้านอาชีวศึกษาและหลังจัดตั้งรัฐบาลแล้วก็จะพร้อมให้คำแนะนำติดตามดูผลงานตามที่แถลงไว้อย่างใกล้ชิดต่อเนื่องตลอดอายุรัฐบาล 4 ปี ให้การปฎิรูปอาชีวศึกษาเพื่อเด็กเยาวชนไทยทุกคนได้เข้าถึงการศึกษาอย่างเท่าเทียมและเสมอภาค มีคุณภาพ ยกระดับการจัดอาชีวศึกษาของประเทศไทย ให้ทัดเทียมนานาประเทศต่อไป ถ้ารัฐบาลใหม่ รัฐมนตรีใหม่ เข้ามาทำงานดีมีผลงานชัดเจนแล้วประชาชนก็คงเลือกท่านเข้ามาเป็นรัฐบาลอีกแน่ นายทวีศักดิ์ นายกสมาคมฯกล่าว

ข่าวอื่นๆ ที่น่าสนใจ