เมื่อ : 07 พ.ค. 2566
ค.ร.อ.ท.ร้องให้อาชีวศึกษาติดตามนักเรียนออกกลางคันทั้งระบบ

 นายเศรษฐศิษฏ์ ณุวงค์ศรี ประธานเครือข่ายคนรักษ์อาชีวศึกษาแห่งประเทศไทย หรือ ค.ร.อ.ท. ได้เปิดเผยถึงกรณีนักเรียนออกกลางคันของสถานศึกษาในกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งเป็นการศึกษาตั้งแต่ประถม ถึง ม.6 และสถานศึกษาอาชีวศึกษา(ปวช.) ในส่วนของ กศน. สพฐ. กทม. อปท .และอาชีวะน้ันซึ่งตัวเลขสูงถึง 52,808 คน โดยแยกเป็นสังกัด สพฐ. 21,364 คน สังกัดการศึกษานอกระบบ 7,138 คน สังกัดองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น 2,428 คน กทม. 897 คน และสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา 20,981 คน โดยภาพรวมถือว่าเป็นการขาดโอกาสในการจัดการศึกษาให้กับประชาชนอย่างยิ่งผู้รับผิดชอบควรได้ดำเนินการหาทางการแก้ไขและหาสาเหตุการออกกลางคันเพื่อคุณภาพการศึกษาของประชาชนต่อไป

นายเศรษฐศิษฏ์ ณุวงค์ศรี ประธาน ค.ร.อ.ท.ได้กล่าวว่าตนในฐานะตัวแทนภาคประชาชน ได้ติดตามข่าวสารข้อมูลดังกล่าวแล้วไม่อาจนิ่งนอนใจได้ โดยเฉพาะในส่วนของอาชีวศึกษา ได้ติดตามสอบถามข้อมูลต่างๆ

จาก ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา  เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ถึงข้อเท็จจริงของจำนวนผู้เรียนที่ออกกลางคัน แนวทางการติดตามและการแก้ปัญหาในเรื่องดังกล่าวซึ่งได้รับคำชี้แจงว่าผู้เรียนของอาชีวศึกษาในระดับ ปวช. ที่มีตัวเลขที่ออกกลางคันนั้นแยกเป็นสถานศึกษาอาชีวศึกษาของรัฐจำนวน 433 แห่ง มีนักเรียนออกกลางคันจำนวน 9,924 คน และสถานศึกษาอาชีวะเอกชน 444 แห่ง นักเรียนออกกลางคัน 8,893 คน รวม 18,817 คน ตนไม่ได้นิ่งนอนใจได้สั่งการถึงผู้อำนวยการสำนักงานอาชีวศึกษาจังหวัด(สอจ.) 77 แห่งทั่วประเทศ ให้ดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการออกติดตามกำหนดแนวทางการให้การช่วยเหลือเพื่อหาวิธีการให้ตามผู้เรียนที่ออกกลางคันได้มีโอกาสกลับเข้ามาเรียนต่อในสถานศึกษาเดิมหรือประสงค์จะศึกษาต่อที่ไหนก็ให้อำนวยความสะดวกและประสานผู้ปกครองได้ร่วมแก้ปัญหา และให้รายงานความคืบหน้าเป็นระยะเพื่อที่จะได้ร่วมแก้ปัญหาในภาพรวมต่อไป

 นายเศรษฐศิษฏ์ ณุวงค์ศรี ประธาน ค.ร.อ.ท. ได้กล่าวเพิ่มเติมถึงการแก้ปัญหากรณีนักเรียนออกกลางคันของอาชีวศึกษาดังกล่าวโดยตนได้พูดคุยแลกเปลี่ยนถึงแนวทางการทำงานของเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ที่จะให้การสนับสนุนสถานศึกษาอาชีวศึกษาเพื่อที่จะให้
ผู้ปกครองและผู้เรียนได้มีความมั่นใจว่าเมื่อเข้าเรียนอาชีวศึกษาแล้วผู้สำเร็จการศึกษาอาชีวะจะต้องมีทักษะฝีมือและสามารถประกอบอาชีพอิสระหรือสถานประกอบการได้ โดยเลขาธิการอาชีวะได้ให้คำมั่นถึงแนวทางที่จะให้การสนับสนุนวิทยาลัยทั้งรัฐและเอกชน รวมถึงการส่งเสริมพัฒนาคุณภาพครูผู้สอนให้มีคุณภาพก้าวทันเทคโนโลยีใหม่ๆพร้อมสนับสนุนงบประมาณในการจัดการเรียนการสอนของทุกสถานศึกษาไม่ว่าภาครัฐและเอกชน และการประสานงานกับสถานประกอบการต่างๆ เพื่อให้เป็นแหล่งฝึกงานสำหรับนักเรียนนักศึกษาที่เรียนอาชีวศึกษาได้อย่างทั่วถึงและมีคุณภาพต่อไป  
  จากการที่ตนได้พูดคุยและยืนยันจากเลขาธิการอาชีวะในครั้งนี้ จึงขอนำเรียนถึงผู้ปกครองและน้องที่สำเร็จการศึกษา ม.3 ที่กำลังตัดสินใจจะเข้าเรียนอาชีวศึกษาขอได้มั่นใจว่าเรียนอาชีวะ มีทักษะฝีมือ มีมาตรฐาน
จบแล้วมีงานทำมีรายได้เลี้ยงดูครอบครัวแน่นอน ค.ร.อ.ท.สนับสนุนและเห็นด้วยกับการที่อาชีวศึกษาจะติดตามผู้เรียนฯที่ออกกลางคันกลับมาให้ได้ 100%