สวธ.จัดนิทรรศการ-การสาธิตมรดกภูมิปัญญา-การแสดงดนตรีโดยศิลปินแห่งชาติ สนุกสนานกับการแสดงพื้นบ้านภาคกลาง-ตะวันออก พบของดีอาหารอร่อยเต็มอิ่ม ในงาน “ดนตรี” สานศิลป์ 2 ถิ่นวัฒนธรรม กระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน หนุน “สุพรรณ” เป็นเมืองสร้างสรรค์ ด้านดนตรีของโลก

กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ร่วมกับจังหวัดสุพรรณบุรี หน่วยงานในสังกัดวธ. กรมส่งเสริมวัฒนธรรม สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และองค์ภาคี ได้จัดงานมหกรรมวัฒนธรรมแห่งชาติ วิถีถิ่น วิถีไทย ภาคกลางและภาคตะวันออก “ดนตรี” สานศิลป์ 2 ถิ่นวัฒนธรรม ระหว่างวันที่ 9-13 มิถุนายน 2566 โดยมีศิลปินแห่งชาติ ศิลปินพื้นบ้าน เครือข่ายทางวัฒนธรรม นักท่องเที่ยว ประชาชนในจังหวัดและใกล้เคียง เข้าเที่ยวชมงานจำนวนมาก ณ วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี
งานมหกรรมนี้จัดขึ้นเพื่อสร้างรายได้ ส่งเสริมสนับสนุนภูมิปัญญาพื้นบ้าน ให้มีพื้นที่ในการนำเสนอคุณค่าของงานศิลปวัฒนธรรมของไทย สร้างคุณค่าและมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรม รวมทั้งเพิ่มบทบาทของหน่วยงานทางวัฒนธรรมในพื้นที่ในการเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมของชาติและท้องถิ่น ให้เป็นที่รับรู้อย่างกว้างขวาง รวมถึงเสริมฐานรากวัฒนธรรมให้เข้มแข็ง ยกระดับมหกรรมวัฒนธรรมท้องถิ่นให้เป็นระดับชาติ ตามนโยบายส่งเสริมการสร้างความเข้มแข็งให้แก่ระบบเศรษฐกิจฐานรากในระดับชุมชนและท้องถิ่น สนับสนุนนโยบายโมเดลเศรษฐกิจใหม่ BCG ของรัฐบาล ร่วมผลักดัน “Soft Power” เพื่อส่งเสริมความเป็นไทยและอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ โดยเฉพาะด้านเทศกาลและประเพณี สร้างงาน สร้างรายได้ให้กับศิลปินและชุมชน อีกทั้งเป็นการเตรียมความพร้อมของจังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อเข้ารับการพิจารณาเข้าสู่เครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ (ด้านดนตรี) องค์การยูเนสโก
กิจกรรมภายในงานพบกับขบวนแห่วิถีวัฒนธรรมและขบวนแห่เบญจภาคี พิธีถวายผ้าหลวงพ่อโต การแสดงในพิธีเปิดงาน ชุด สุพรรณบุรีเมืองสร้างสรรค์ สานศิลป์ ถิ่นวัฒนธรรม พลาดไม่ได้กับแสดงดนตรีนำโดยอาจารย์ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีไทย) พุทธศักราช 2539 และเปาวลี
พรพิมล นักร้องเพลงลูกทุ่งชื่อดังแห่งเมืองสุพรรณบุรี ร่วมสร้างความประทับใจในพิธีเปิดงาน นอกจากนั้น ยังมีนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ชมนิทรรศการ การสาธิตให้ความรู้ในมรดกภูมิปัญญาที่ได้รับการขึ้นทะเบียนกับยูเนสโก รวมถึงมรดกภูมิปัญญาที่สำคัญของชาติ ฯลฯ ตื่นตาตื่นใจไปกับการแสดงศิลปะและวัฒนธรรมจาก 25 จังหวัด ภาคกลางและภาคตะวันออก กิจกรรมสร้างการรับรู้เมืองดนตรีสุพรรณบุรี และการจำหน่ายสินค้าของดีจังหวัด ผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรม ชิมอาหารและขนมอร่อยขึ้นขึ้นของภูมิภาค

นายโกวิท ผกามาศ อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) เปิดเผยว่า ได้นำกิจกรรมที่สำคัญและน่าสนใจมาร่วมงาน อาทิ การแสดงนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ ประกอบด้วย มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่ได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกภูมิปัญญาฯ ของมนุษยชาติกับองค์การยูเนสโก คือ โขน โนรา นวดไทย และมรดกภูมิปัญญาฯ ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาการขึ้นทะเบียนลำดับถัดไป ได้แก่ สงกรานต์ และ ต้มยำกุ้ง กิจกรรมสาธิตหัตถกรรมมรดกภูมิปัญญา ได้แก่ ผลิตภัณฑ์จากดินสอพอง ผ้าขาวม้า ผ้าทอไทครั่ง(ลาวเวียง) และหัตถกรรมวาดหัวโขนจิ๋ว เป็นต้น ซึ่งมีนักท่องเที่ยวประชาชนให้ความสนใจใช้บริการนวดไทย อย่างต่อเนื่อง รวมถึงให้ความสนใจถ่ายรูปในโซนนิทรรศการ 3 ศิลปินแห่งชาติของจังหวัดสุพรรณบุรี ประกอบด้วย ไวพจน์ เพชรสุพรรณ สาขาศิลปะการแสดง (นักร้องเพลงลูกทุ่ง) แม่ขวัญจิต ศรีประจันต์ สาขาศิลปะการแสดง (เพลงพื้นบ้าน - อีแซว) และ ยืนยง โอภากุล (แอ๊ด คาราบาว) ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีไทยสากล)

และสวธ.ยังได้นำการแสดงดนตรีและการแสดงพื้นบ้าน มาสร้างความบันเทิงในงานมหกรรมวัฒนธรรม ได้แก่ การแสดงจากสมาคมเพลงพื้นบ้านคณะแม่ขวัญจิต ศรีประจันต์ คณะอาจารย์วรรณา และคณะ ผศ.บัวผัน การแสดงลิเกจากสมาคมลิเก และการแสดงดนตรีและเพลงสากล โดยคณะนักร้องประสานเสียงเยาวชนไทย (TYC) วงดุริยางค์เยาวชนไทย ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ (TYO) และ วงดุริยางค์เครื่องลมเยาวชนไทย (TYW) มาสร้างสีสันความบันเทิงให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวงานอย่างเต็มอิ่ม
นอกจากนี้ ยังมีตลาดวัฒนธรรมอาหารคาวและหวานในภูมิภาคร่วมออกร้านกว่า 40 ร้าน ให้อิ่มอร่อยกันตลอดงาน และยังได้ช้อปกับผลิตภัณฑ์ และบริการทางวัฒนธรรม CCPOT จาก 25 จังหวัด ตลาดต้นไม้ ตลาดพระเครื่อง และการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ด้านดนตรีและผลิตภัณฑ์ของดีบ้านฉันสุพรรณบุรี มีกิจกรรมการเสวนาทางวิชาการ เรื่องวรรณกรรมและประวัติศาสตร์สุพรรณบุรี ทั้งนี้ การจัดงานมหกรรมวัฒนธรรมแห่งชาติ วิถีถิ่น วิถีไทย ครั้งต่อไปมีกำหนดจัดที่ภาคใต้ ภายใต้ชื่องาน “สานศิลป์ แดนดินใต้ เทิดไท้ องค์ราชัน” ในวันที่ 26 – 30 กรกฎาคม 2566 ณ บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี อีกด้วย
