เครือข่าย ค.ร.อ.ท.ชง 3 แนวทางให้เลขาอาชีวะพลิกโฉมอาชีวศึกษาสู่มิติใหม่แห่งความเข้มแข็ง

นายเศรษฐศิษฎ์ ณุวงค์ศรี ประธานเครือข่ายคนรักษ์อาชีวศึกษาแห่งประเทศไทย หรือ ค.ร.อ.ท. กล่าวว่า เป็นเวลาเกือบร้อยปีแล้วที่อาชีวะศึกษายังไม่ได้สร้างความเข้มแข็งสู่ความเป็นผู้นำด้านวิชาชีพเท่าที่ควรด้วยปัจจัยหลายอย่าง บัดนี้ถึงเวลาแล้วที่การอาชีวศึกษาจะเป็นที่พึ่งด้านการสร้างอาชีพให้ผู้เรียนและเป็นความหวังของผู้ปกครอง เครือข่ายคนรักษ์อาชีวศึกษาแห่งประเทศไทย (ค.ร.อ.ท.)ได้มองเห็นประเด็นและโอกาสที่ดีขอนำเสนอแนวทางให้เลขาธิการอาชีวศึกษา ว่าที่ร้อยตรีดร.ธนุ วงษ์จินดา ได้เป็นแนวทางเพื่อการขับเคลื่อนและความสร้างความเข้มแข็งพลิกโฉมการอาชีวศึกษาไทยให้ก้าวล้ำนำอาชีพสร้างผู้เรียนอาชีวศึกษาให้เป็นกำลังหลักของประเทศและขอให้นำเสนอรัฐบาลใหม่เพื่อการสนับสนุนงบประมาณในการสร้างกำลังคนของประเทศ ค.ร.อ.ท.ขอเสนอให้รัฐบาลใหม่สนับสนุนงบประมาณสร้างความเข้มแข็งให้การอาชีวะ 3 ด้าน คือ อันดับแรกครูผู้สอน ควรได้รับการพัฒนาฝึกอบรมศึกษาต่อเพื่อสร้างคุณภาพและความน่าเชื่อถือของผู้ปกครอง สองการจัดหาครุภัณฑ์ที่ทันเทคโนโลยี และสามด้านงบประมาณสนับสนุนการบริหารจัดการที่เพียงพอ
นายเศรษฐศิษฏ์ ณุวงค์ศรี ประธานเครือข่ายคนรักษ์อาชีวศึกษาแห่งประเทศไทย(ค.ร.อ.ท.)ได้กล่าวถึงการพัฒนาผู้เรียนด้านอาชีวศึกษาในปัจจุบันยังขาดงบประมาณสนับสนุนที่เพียงพอ ถึงเวลาแล้วที่รัฐบาลจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงและสนับสนุนการจัดการเรียนการสอนอาชีวะอย่างจริงจังเพื่อให้ได้ผู้เรียนที่มีคุณภาพเมื่อสำเร็จการศึกษาจากอาชีวศึกษาย่อมสามารถที่จะไปสร้างคุณภาพชีวิตหรือทำงานในสถานประกอบการสร้างความเข้มแข็งในการพัฒนาประเทศชาติได้อย่างมีคุณภาพ ตนจึงขอนำข้อเสนอและสนับสนุนในการบริหารอาชีวะศึกษายุคใหม่ให้เลขาอาชีวศึกษาได้นำเสนอรัฐบาลใหม่เพื่อให้เห็นความสำคัญของผู้เรียนอาชีวศึกษา 3 ด้าน คือ
ประเด็นที่ 1. ครูอาจารย์ที่สอนในอาชีวศึกษาที่ผ่านมายังไม่ได้รับงบประมาณสนับสนุนในการพัฒนาองค์ความรู้ให้ก้าวทันเทคโนโลยีหรือได้งบสนับสนุนศึกษาต่อในสาขาที่เป็นที่ต้องการของประชาชนและสถานประกอบการ โดยทราบว่าที่ผ่านมารัฐบาลไม่ได้สนับสนุนงบประมาณในส่วนนี้
ประเด็นที่ 2. คือให้รัฐบาลให้ความสำคัญในการพัฒนาคุณภาพของผู้เรียนนั่นคือการจัดหาครุภัณฑ์ที่ทันเทคโนโลยีไม่ใช่ครุภัณฑ์ที่ได้ใช้ในการจัดการเรียนการสอนในปัจจุบันนี้ล้าสมัยไม่ทันกับการพัฒนาของประเทศแล้วผู้เรียนจะมีความรู้นำไปประกอบอาชีพหรือได้รับการยอมรับจากสถานประกอบการหรือประชาชนได้อย่างไร
และประเด็นที่ 3 ที่เห็นว่ารัฐบาลควรที่จะมีการจัดสรรงบประมาณในการพัฒนาผู้เรียนอาชีวศึกษาต่างจากปัจจุบันที่ได้รับสนับสนุนงบประมาณที่ไม่สามารถทำให้จัดวัสดุที่ใช้ในการฝึกการเรียนการสอนที่เพียงพอ ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการเรียนวิชาชีพอย่างยิ่งดังนั้นตนจึงขอสนับสนุนให้เลขาอาชีวศึกษาได้ดำเนินการใน 3 ส่วนนี้เพื่อเสนอให้รัฐบาลใหม่ซึ่งคาดว่าจะต้องให้ความสำคัญกับผู้เรียนด้านอาชีวะแน่นอน
นายเศรษฐศิษฏ์ ณุวงค์ศรี ได้กล่าวเพิ่มเติมถึงการทำงานของเลขาอาชีวศึกษาที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาให้บุคลากรมีวิทยฐานะได้อย่างรวดเร็วเป็นที่พอใจของบุคลากร ซึ่งเชื่อมั่นว่ามีอีกสิ่งหนึ่งที่อยากให้เลขาอาชีวะ ได้พิจารณาและทำให้สำเร็จก็คือประเด็นผู้บริหารสถานศึกษาอาชีวศึกษาที่มีขนาดใหญ่ผู้บริหารต้องใช้องค์ความรู้ความสามารถในทุกๆด้านแต่มีปัญหาอุปสรรคตรงที่การพัฒนาวิทยฐานะสูงขึ้นที่ยากลำบาก จึงขอให้อาชีวศึกษาได้มีการนำเสนอเพื่อให้ผู้บริหารอาชีวศึกษามีแนวทางในการได้วิทยฐานะที่สูงขึ้นโดยวิธีพิเศษหรือที่แตกต่างไปจากการศึกษาขั้นพื้นฐานและเป็นที่น่าชื่นใจของสถานศึกษาต่างๆที่ได้อัตรากำลังครูเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว ให้กับสถานศึกษาต่างๆเป็นที่น่าพอใจ จึงขอเป็นกำลังใจให้เลขาอาชีวะ ซึ่งที่ผ่านมาการบริหารงานทุกๆด้านกำลังเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงสร้างความเข้มแข็งให้อาชีวะได้พัฒนา ได้มีโอกาสบริหารงานขับเคลื่อนอาชีวะเพื่อความต่อเนื่องและก้าวหน้าในอนาคตต่อไป
