เมื่อ : 22 พ.ย. 2566
สอศ. ขานรับ Mou 4 กระทรวง สู่การเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) วิชาประวัติศาสตร์ชาติไทย

วันที่ 20 พฤศจิกายน 2566 นายยศพล เวณุโกเศศ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.)  เป็นหน่วยงานผลิตและพัฒนากำลังคนสมรรถนะสูง เพื่อการพัฒนาประเทศ  ขับเคลื่อนงานตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ “เรียนดี มีความสุข” และนำแนวนโยบายจากความร่วมมือ 4 กระทรวง กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงแรงงาน และกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม “การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของชาติ สร้างจิตสำนึกความเป็นไทย” สู่การปฏิบัติ โดยให้ความสำคัญและมุ่งเน้นให้ผู้เรียนมีจิตสำนึกรักชาติ ภาคภูมิใจในประวัติศาสตร์ชาติไทย และยึดมั่นสถาบันหลัก 

ซึ่งในปีการศึกษานี้ สอศ. ได้เน้นย้ำและกำหนดรายวิชาประวัติศาสตร์ชาติไทย วิชาหน้าที่พลเมือง เป็นวิชาสำคัญอันดับต้นๆ โดยให้สำนักที่เกี่ยวข้องดำเนินการในเรื่องของการปรับหลักสูตร บูรณการการจัดการเรียนการสอนใหม่แบบเชิงรุก (Active Learning) สร้างกระบวนการคิด วิเคราะห์ ให้เกิดความเหมาะสม ทันสมัย มุ่งเน้นการสอนประวัติศาสตร์แนวใหม่ เชิงสร้างสรรค์ นำการสอนแนวใหม่โดยไม่เน้นการท่องจำ เชื่อมโยงกับสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวโดยนำเทคนิควิธีการสอนสมัยใหม่มาผสมผสานให้เป็นความรู้ใกล้ตัว เช่น การใช้โซเชียลมีเดีย (Tiktok หรือ Podcast) และเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการเรียนรู้นอกห้องเรียน โดยใช้แหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ท้องถิ่นเป็นห้องเรียน รวมทั้งยังย้ำให้สถานศึกษาบูรณาการในกิจกรรมวันสำคัญของชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ภายใต้องค์การนักวิชาชีพในอนาคตแห่งประเทศไทย (อวท.) และองค์การเกษตรกรในอนาคตแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (อกท.) เพื่อให้ผู้เรียนเกิดความตระหนักรู้และนำไปสู่การประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันและการประกอบอาชีพในอนาคต

 
เลขาธิการ กอศ. กล่าวต่อไปว่า สอศ. ได้นำรายวิชาประวัติศาสตร์ชาติไทย และส่งเสริมองค์ความรู้ด้านประวัติศาสตร์ชาติไทยสู่อาชีวศึกษา เพื่อนักเรียนจะได้เข้าใจและเห็นบทเรียนจากเรื่องราวประวัติศาสตร์ของไทย สู่การเชื่อมโยงและสร้างความตระหนัก สู่การปฏิบัติที่เป็น Soft Power ให้ผู้เรียนได้เห็นคุณค่าเกิดพัฒนาตนเอง ซึ่งจะสามารถนำความรู้ที่ได้จากการเรียนไปต่อยอด ประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน และเกิดเป็นจริยธรรมของนักเรียนนักศึกษา เป็นประโยชน์ทั้งปัจจุบันและอนาคต ก่อเกิดความรักชาติ ความสามัคคี อย่างยั่งยืนต่อไป
 

                             ########